วิธีรักษาแผลเป็น
 
 All applications for mobile All applications for desktop
หน้าแรก ทรงผม พิมพ์นามบัตร ดูเวลาทั่วโลก พิมพ์ปฏิทิน พิมพ์การ์ด ใส่กรอบรูปภาพ แว่นตา ทำสติกเกอร์ไลน์ ใบหน้าคุณ
TH EN
โรคต่างๆ ดูดวง ต้นไม้อื่นๆ ต้นไม้มงคล ปฏิทิน อีการ์ด ศัลยกรรมความงาม คอนแทคเลนส์ Ecard
ทรงผม ออกแบบทรงผม กรอบรูป ทำกรอบรูป ฟรีออกแบบอีการ์ดใช้รูปคุณ 2 ภาพ ออกแบบอีการ์ดเคลื่อนไหว ใส่รูปคุณ การ์ดอวยพร ออกแบบการ์ดหรือสติกเกอร์ขนาดใหญ่ ใส่รูปคุณ ออกแบบนามบัตร/ทำนามบัตร พิมพ์การ์ด ออกแบบการ์ดต่างๆ สำหรับพิมพ์ ออกแบบการ์ดต่างๆ สำหรับส่ง ออกแบบรูปถ่ายสติกเกอร์ฟรี ฟรีออกแบบนามบัตร/ฟรีทำนามบัตร ออกแบบอีการ์ดเคลื่อนไหว 2 ภาพ ออกแบบอีการ์ด ช่อดอกไม้ กระเช้าดอกไม้ แต่งตัวคุณด้วยชุดจากห้องเสื้อชื่อดัง วอล์ลเปเปอร์ ใส่หน้าคุณ ทำปฏิทินเอง เสี่ยงเซียมซี ลอยกระทงออนไลน์ ฟรี นาฬิกาติดเว็บ ปฏิทินติดเว็บรูปคุณ ฟรีรูปภาพ ดูดวงไพ่ยิปซี
 
 
 
 
แผลเป็น แผลเป็นมีกี่ชนิด แผลเป็นมีหลายรูปแบบแต่แผลเป็นที่ถือว่าผิดปกตินั้นจะแบ่งออกได้เป็น 3 ลักษณะ คือ
แผลเป็นที่โตนูน แผลเป็นที่โตนูนมี 2 แบบคือ
แผลเป็นนูนเกิน hypertrophic scar: เป็นแผลที่โตนูนแต่ไม่เกินขอบเขตของแผลเดิม ในระยะแรกจะมีลักษณะนูน แดง คัน
แผลเป็นคีลอยด์ : เป็นแผลเป็นที่โตนูนและขยายใหญ่เกินขอบเขตของแผลเดิมไปมาก
แผลเป็นที่ลึกบุ๋มลงไปที่เรียกว่า depressed scar มีลักษณะเป็นร่องหรือรูบุ๋มลึกลงไปใต้ผิวหนัง
แผลเป็นที่มีการหดรั้งร่วมด้วย เรียกว่า scar contracture : แผลเป็นชนิดนี้จะดึงรั้งอวัยวะบริเวณแผลให้ผิดรูปได้
แผลเป็นทั้งสามลักษณะนี้อาจจะมีผิวสีซีดที่เรียกว่า hypopigmentation หรือผิวสีเข้ม hyperpigmentation ก็ได้
แผลเป็นแบบ hypertrophic scar เกิดจากอะไร ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าทำไมบางคนถึงเกิด hypertrophic scar หรือแผลเป็นนูนเกิน แต่สาเหตุ อาจจะพบได้จากการที่แผลเกิดในตำแหน่งที่ความตึงมาก เช่น บริเวณข้อต่อหรือกลางหน้าอก เป็นต้น แผลเป็นนูนเกินนี้มักจะพบได้มากในช่วงระยะ 6 เดือนแรก หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ ยุบลงและจะกลับเข้าสู่แผลเป็นคงที่ (stable scar) มีลักษณะใกล้เคียงแผลเป็นปกติในช่วงประมาณ 1 ปีภายหลังเกิดแผล
แผลเป็นคีลอยด์เกิดจากอะไร ยังไม่ทราบสาเหตุของแผลเป็นคีลอยด์แต่พบว่ามักจะเกิดในผู้ป่วยที่มีผิวสีเข้ม ในตำแหน่งที่เกิดได้บ่อย ได้แก่ หัวไหล่ ติ่งหูและกลางหน้าอก ส่วนหนึ่งพบในผู้ป่วยที่มีประวัติทางพันธุกรรม คือ มีประวัติการเกิดคีลอยด์ในพ่อหรือแม่ แผลเป็นคีลอยด์นี้ เชื่อว่าเกิดจากการ ที่แผลเป็นมีการสร้างสารที่เรียกว่าคอ ลลาเจนมากเกินกว่าปกติ
เราจะป้องกันได้อย่างไร
การป้องกันการเกิดแผลเป็นเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะการที่มีแผลใหม่ ๆ เราจะเริ่มโดยการแนะนำให้ผู้ป่วยนวดหรือการกดบริเวณนั้น ๆ โดยทั่วไปแล้ว การนวด อย่างสม่ำเสมอในระยะประมาณ 3-6 เดือนแรก เป็นเรื่องสำคัญและจะช่วยให้แผลเป็นนั้นลดการขยายตัวและนูนเกินได้ ในบางครั้งแผลเป็นที่มีขนาดใหญ่กว้าง เช่นแผลเป็นที่เกิดจากไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวก อาจจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือพิเศษหรือผ้ารัดหรือ Pressure garment นี้จะต้องสวมใส่เพื่อที่ จะรัดบริเวณที่เกิดแผล เป็น เช่น ใบหน้า ลำตัว และแขน ขา ในช่วงระยะประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีแรกหลังจากได้รับอุบัติเหตุ การนวดก็จะสามารถลด การเกิดแผลเป็นได้ เช่นเดียวกัน ดังนั้นในช่วงระยะแรกที่แผลเป็น มีการอักเสบอยู่การนวดก็จะช่วยลดไม่ให้แผลเป็นมีการขยายใหญ่โตได้

วิธีรักษาแผลเป็น
วิธีที่ 1 คือวิธีอนุรักษ์หรือว่า conservative ก่อน โดยส่วนใหญ่แล้วพบว่าเกิน 95 % รักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีที่แนะนำให้ใช้วิธีแรกคือ การใช้แผ่นซิลิโคนปิดแผ่นซิลิโคนนี้จะเป็นแผ่นเจลใส ๆ ที่ทำมาจากซิลิโคน เราสามารถปิดไว้บนบาดแผล หลังจากบาดแผลหายดีแล้วประมาณ 7 วัน การปิดแผลนี้แนะนำให้ปิดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งข้อดีจะทำให้บริเวณผิวหนังที่อยู่ใต้แผ่นซิลิโคนนี้ มีความชุ่มชื้นมากขึ้นทำให้ลดการอักเสบได้
วิธีที่ 2 เนื่องจากว่าบางครั้งเราพบว่าการปิดด้วยซิลิโคนอาจจะไม่สะดวก การใช้แผ่นเทปเหนียวหรือว่า microporous tape ก็จะสามารถทดแทนได้เช่นเดียวกัน แผ่นเทปเหนียวนี้สามารถใช้ปิดลงบนบาดแผลได้โดยตรงและจะทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ต่อเทปนี้มีความชุ่มชื้นมากขึ้นทำให้มีการอักเสบลดน้อยลง
วิธีที่ 3 การฉีดยาด้วยยาสเตียรอยด์จะลดการอักเสบของการเกิดเป็นแผลเป็นนูนเกินหรือคีลอยด์ได้ยาที่แนะนำคือ Triamcinolone acetonide ซึ่งเป็นยาฉีดเฉพาะที่สามารถลดการอักเสบ วิธีการรักษาคือฉีดยาเข้าไปในแผลเป็นโดยตรงแต่ก็อาจทำให้มีอาการเจ็บได้พอสมควรในระหว่างการฉีดยา จะแนะนำให้ฉีดแผลเป็นนี้ในช่วงระยะประมาณไม่เกิน 1 ปีแรกหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนใหญ่แล้วจะนัดมาฉีดประมาณเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งความถี่ในการฉีดขึ้นอยู่กับการตอบสนองของยาว่าเป็นอย่างไร
วิธีที่ 4 คือการผ่าตัด การผ่าตัดมีอยู่หลายวิธีขึ้นอยู่กับรูปแบบของแผลเป็นนั้น ถ้าเป็นกรณีที่เกิดเป็นแผลเป็นนูนเกินหรือคีลอยด์เราก็อาจจะใช้วิธีตัดออก หรือว่าลดขนาดลงบางส่วน วิธีนี้อาจจะใช้ร่วมกับการรักษาโดยวิธีอื่น เช่น การฉีดยาหรือการปิดด้วยแผ่นซิลิโคนก็ได้ การผ่าตัดมีอยู่หลายวิธี อาจจะใช้วิธีตัดออก โดยตรงแล้วเย็บปิดเป็นเส้นตรงหรืออาจจะตัดออกเป็นรูปซิกแซก เพื่อที่จะให้แผลเป็นที่เกิดขึ้นใหม่มีลักษณะใกล้เคียงกับรอยย่นตามผิวหนัง
การผ่าตัดอีกวิธีหนึ่งคือการลดขนาดของแผลเป็น วิธีนี้เราจะใช้วิธีการตัดแผลเป็นออกบ้างบางส่วนโดยจะไม่ตัดออกทั้งหมด หลังจากนั้น จะนัดผู้ป่วยมาเพื่อติดตาม ผลการรักษา หากแผลเป็นมีขนาดเล็กลงอาจจะนัดมาตัดซ้ำอีกครั้ง เรียกว่าการตัดแบบทีละน้อยหรือ serial excision วิธีการผ่าตัดอีกวิธีหนึ่งคือ การใช้วิธีขัดกรอผิวหนัง หรือว่า dermabrasion การขัดกรอผิวหนังนี้ จะใช้ในกรณีที่มีแผลเป็นที่รอยขรุขระ หรือไม่เรียบหรือเป็นรอยบุ๋มแผลเป็นนี้ส่วนใหญ่ มักจะเกิดจากสิวอักเสบหรือโรคสุกใส การใช้หัวกรอหรือใช้แสงเลเซอร์ยิงบริเวณที่รอยขรุขระนี้เพื่อจะปรับสภาพผิวให้ราบเรียบขึ้น แต่ข้อควรระวัง คืออาจจะเกิดมีการเกิดผิวสีเข้มหรือ hyperpigmentation บริเวณนั้นได้

การรักษาแผลเป็นนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาดูว่าแผลเป็นนั้นเป็นแผลเป็นนูนชนิดใด หากเป็นแผลเป็นนูนเกินหรือคีลอยด์จะต้องพิจารณาการรักษาอย่างเหมาะสม มิฉะนั้นอาจจะมีแผลเป็นใหญ่โตเกินกว่าขนาดเดิมได้โดยทั่วไปแล้วแผลเป็นมักจะสามารถป้องกันได้ เพราะฉะนั้นหากเรารู้จักวิธีการดูแลรักษา ภายหลังจากที่ได้รับ แผลเป็นใหม่ ๆ ก็จะสามารถป้องกันไม่ให้แผลเป็นนั้นนูนเกินหรือเป็นคีลอยด์ได้ในอนาคต

รวมวิธีทำ วิธีแก้ เกี่ยวกับ ความสวย ความงาม
Sponsored Links
 
 
 
Copyright 2007-2025 www.ecarddesignanimation.com  All Rights Reserved. 
www.ecarddesignanimation.com (Thailand Server) www.freeecardgreeting.net (USA Server)