 |
คำขวัญประจำจังหวัดบึงกาฬ ภูทอกแหล่งพระธรรม ค่าล้ำยางพารา งามตาแก่งอาฮง บึงโขงหลงเพลินใจ น้ำตกใสเจ็ดสี ประเพณีแข่งเรือ เหนือสุดแดนอีสาน นมัสการหลวงพ่อใหญ่ ศูนย์รวมใจศาลสองนาง |
|
รูปภูทอก บึงโขงหลง และต้นไม้ ภูทอก หมายถึงภูเขา ที่มีลักษณะเป็นภูโดดลูกเดียว เป็นภูเขาที่มีการสร้างสะพาน และบันไดไม้เวียน เจ็ดชั้น สามารถชมทัศนียภาพได้โดยรอบ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬอีกด้วย
บึงโขงหลง หมายถึง แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ในจังหวัดบึงกาฬ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ได้รับการประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า และได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งชุ่มน้ำระดับนานาชาติ อันดับที่ 1,098 ของโลก และเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ สำหรับใช้ในพระราชพิธี ที่สำคัญของประเทศ
ต้นไม้ หมายถึงความชุ่มชื้น อุดมสมบูรณ์ เป็นที่อาศัยและยังชีพของคน และสัตว์ทั้งมวล แสดงถึง ความอุดม สมบูรณ์ ของจังหวัดบึงกาฬ ที่มีป่าไม้ พรรณไม้ ตลอดจนสัตว์ป่าหายากมากมาย รวมถึงสะท้อน ความเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่อุดม ไปด้วย ธรรมชาติ เอื้อเกื้อหนุนให้เกิดการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ สืบสาน ประเพณีไทย |
|
ประวัติ |
จังหวัดบึงกาฬ ห่างจาก จังหวัดหนองคาย 145 กม. และติดกับ จังหวัดนครพนม มีการปลูกยางมากที่สุด รายได้ดีประชากรดีมาก
จังหวัดบึงกาฬ แยกออกจาก จ.หนองคาย มีประชากรเกือบ 4 แสนคน มีความพร้อมเรื่องสาธารณูปโภคทั้งศาลากลาง อำเภอ สำนักงานอัยการ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ แขวงการทาง สถานีตำรวจน้ำเป็นจังหวัดที่มีสภาพแวดล้อม ที่สมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วย ภูเขา น้ำตก ที่สวยงาม เช่น น้ำตกเจ็ดสี, น้ำตกตากชะแนน ที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูวัว อีกทั้งอำเภอบึงกาฬ ยังมีส่วนที่ติดกับ แม่น้ำโขง ตลอดริมแนวชายฝั่ง
จังหวัดบึงกาฬ ภูมิอากาศที่จังหวัดบึงกาฬที่นี้ดีมาก เพราะได้ผลจากแม่น้ำโขง ทำให้ไม่ร้อนมาก ในช่วงหน้าร้อน หน้าหนาวก็อากาศดีน่าท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง สังเกตุได้จากที่พักบึงกาฬ จะเต็มอยู่ตลอดเวลา ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ
ประเพณีวัฒนธรรมของจังหวัดบึงกาฬ ได้รับการสืบทอดมาอย่างรุ่นต่อรุ่นอย่างไม่ขาดหาย เพราะได้รับ การสนับสนุน จากประชาชนอย่างดี เทศกาลต่างๆ ของจังหวัดบึงกาฬ เช่น เทศกาลบุญบั้งไฟ, เทศกาลสงกรานต์ อัธยาศัย ของคน จังหวัดบึงกาฬนั้นเป็นกันเอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อาหารการกินนั้นจะอยู่ในพวกประเภทของปลา เพราะอยู่ติดแม่น้ำโขง ทำให้สามารถหาปลาได้อย่างง่ายดาย |
แบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอประกอบด้วย
อ.บึงกาฬ อ.เซกา อ.โซ่พิสัย อ.พรเจริญ
อ.ปากคาด อ.บึงโขงหลง อ.ศรีวิไล และ อ.บุ่งคล้า |
|
อาณาเขต |
ทิศเหนือ ติดต่อกับแขวงบอลิคำไซ, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นแนวพรมแดน
ทิศตะวันออก ติดต่อกับแขวงบอลิคำไซ, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและจังหวัดนครพนม
ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดสกลนคร
ทิศตะวันตก ติดต่อกับนครหลวงเวียงจันทน์, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและจังหวัดหนองคาย |
|
|
|
ต้นไม้ ดอกไม้ ประจำจังหวัด |
ต้นไม้ประจำจังหวัดบึงกาฬ -ต้นชิงชัน |
สถานที่ท่องเที่ยว |
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว,น้ำตกเจ็ดสี,น้ำตกตาดกินรี,เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง,ภูทอก,ดสว่างอารมณ์ ,หาดทรายขาว,แก่งอาฮง ,ตลาดสองฝั่งโขง, หนองกุดทิง |
การเดินทาง |
ทางรถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดสระบุรี (ที่นี่เป็นที่มาของ คำพูด สระบุรีเลี้ยวขวา) แล้วเข้าทางหลวงหมายเลข 2 ผ่านจังหวัดนครราชสีมา-จังหวัดขอนแก่น- จังหวัดอุดรธานี-จนถึงจังหวัดหนองคาย และจากหนองคาย สู่จังหวัดบึงกาฬ ใช้ทางหลวงหมายเลข 212 โดยจะผ่านอำเภอโพนพิสัย กิ่งอำเภอรัตนวาปี อำเภอปากคาด รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 715 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ (ประมาณ 11 ชั่วโมง 4 นาที)
ทางรถโดยสารประจำทาง
มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถปรับอากาศ ให้บริการรถสาย กรุงเทพฯ หนองคาย บึงกาฬ บุ่งคล้า, กรุงเทพฯ กุมภวาปี บึงกาฬ ,ระยอง-ขอนแก่น-พังโคน-บึงกาฬ
และยังมีรถบริษัทเอกชนหลายแห่ง จัดรถวิ่งระหว่าง กรุงเทพฯ-หนองคาย โดยเริ่มจากสถานีขนส่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถนนกำแพงเพชร หรือที่รู้จักในนาม "หมอชิต2" และจากตัวจังหวัดอุดรธานีก็จะมีรถธรรมดาวิ่งมาจากสาย 224 อุดร-นครพนม
ทางรถไฟ
มีขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯ-หนองคาย และขบวนรถด่วนดีเซลราง กรุงเทพ อุดรฯ ทุกวัน
ทางเครื่องบิน
สามารถไปได้โดยลงที่สนามบินจังหวัดอุดรธานี
ระยะทางจากตัวจังหวัดไปยังอำเภอ
อ.พรเจริญ 46 กิโลเมตร
อ.ปากคาด 44.89 กิโลเมตร
อ.ศรีวิไล 20.67 กิโลเมตร
อ. โซ่พิสัย 79.20กิโลเมตร
อ.เซกา 101.79 กิโลเมตร
อ.บุ่งคล้า 42.52กิโลเมตร
อ.บึงโขงหลง 89.04 กิโลเมตร |
|