ต้นกระดังงา เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางและใหญ่ลักษณะการแตกกิ่งก้านลู่ลงข้างล่างบางชนิดก็มีลักษณะเป็นเถา เลื้อยลำต้นสูงประมาณ 15 - 25 เมตร เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลและสีเาโคนต้นมีปุ่มอยู่เล็กน้อยแตกกิ่งสาขามากมุ่มแน่น ใบเป็นใบเดี่ยวออกสบับกันตาม กิ่งก้าน ลักษณะใบยาวประมาณ 12-15 เซนติเมตร กว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตรปลายใบแหลมโคนใบมนสอบแหลมขอบใบเรียบ สีเขียว ดอกจะออกเป็นช่อ ตามปลายกิ่ง หรือ โคนใบ มีสีเหลือง กลิ่นหอมแรงดอกหนึ่งจะมี 6 กลีบ ดอกจะแบ่งเป็น2 ชั้นมีชั้นละ 3 กลีบ ลักษณะของดอกเรียวยาว ม้วนบิดไปมา ขนาดดอกยาวประมาณ 3-5 นิ้ว ตรงกลางดอกมีจุดเล็ก ๆ สีขาว |
ความเป็นมงคล |
ต้นไม้มงคล ที่นิยมปลูกกันด้วยชื่อที่เป็นมงคล คนโบราณเชื่อกันว่าการปลูกต้นกระดังงา
ทำให้คนในบ้านมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่นับหน้าถือตา มีเงินทองลาภยศ
ควรปลูกต้นกระดังงา ทางทิศตะวันออกของตัวบ้าน
เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคล แก่ตัวบ้านและครอบครัวที่อาศัย |
ต้นกระดังงา ดอกกระดังงา |
 |
|
|
|
การปลูก |
นิยมปลูกลงในแปลงปลูก เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ถ้าเป็นชนิดแบบเถาเลื้อย ดังนั้นควรมีค้าน หรือซุ้ม เพื่อให้ต้นกระดังงา เลื้อยเกาะ จึงเหมาะที่จะปลูก เป็นร่มริมรั้วบ้าน ขนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตรใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก ถ้าให้การเจริญเติบโต ของทรงพุ่มที่สวยงาม และเป็นระเบียบ ควรตัดแต่งกิ่งให้เหมาะสมด้วย ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ต้องการปริมาณน้ำ ปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง ชอบดินร่วนซุยใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1 : 2 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4-6 ครั้ง |
|
การขยายพันธุ์ |
การขยายพันธ์ การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การตอน |
|
โรคและแมลง |
ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนต่อโรคพอสมควร เพลี้ยต่าง ๆ อาการใบและยอดถูกกัดแทะ เป็นรู เป็นรอย และทำให้ทรงพุ่มแคระแกร็น การป้องกันรักษาความสะอาด บริเวณแปลงปลูก การกำจัดใช้ยาคาร์บาริล (Carbaryl) อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก |
|