ต้นหน้าวัวเปลวเทียน

ต้นไม้มงคล

ต้นมะลิ	ต้นชบา	ต้นเข็ม	ต้นโป๊ยเซียน	ต้นกล้วยไม้	ต้นดอกบานไม่รู้โรย
ต้นกวนอิม	ต้นกระดังงา	ต้นวาสนา	ต้นพุด	ต้น โกสน	ต้นดอกดาวเรือง
ต้นมะยม	ต้นมะม่วง	ต้นขนุน	ต้นมะขาม	ต้นแก้ว	ต้นโมก
ต้นไผ่	ต้นราชพฤกษ์	ต้นกล้วย	ต้นพุดศุภโชค	ต้นพุดซ้อน	ต้นพุดแก้ว
ต้นพิกุล	ต้นแค	ต้นบัว	ต้นจำปา	ต้นจำปี	ต้นจำปูน

ต้นหน้าวัวเปลวเทียน Lady Jane
หน้าวัวเปลวเทียน ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Anthurium Lady Jane วงศ์ : ARACEAE ถิ่นกำเนิดอยู่ที่ เขตร้อนและเขตกึ่งร้อนของทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ เป็นหน้าวัวสายพันธุ์หนึ่งที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับภายในอาคารหรือปลูกคลุมดิน เป็นไม้พุ่มเตี้ย มีอายุหลายปี เป็นไม้ดอกที่มีรูปร่างแปลกตา สีสันสดสวย ออกดอกได้ตลอดปี ใบเป็นรูปหัวใจคล้ายใบบอน ใบแตกออกจากลำต้นเรียงเวียนสลับกัน ดอกเกิดจากตาดอกที่ซอกใบ ประกอบด้วยช่อดอกที่เรียกว่าปลี มีสีแตกต่างกันขึ้นกับสายพันธุ์ จานรองดอกหรือใบประดับมีลักษณะคล้ายใบเรียบๆ ติดที่โคนปลี สีของจานรองดอกมีหลากสีแตกต่างกันขึ้นกับสายพันธุ์ สภาพอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทยเหมาะแก่การปลูกหน้าวัวเปลวเทียน ถ้าปลูกกลางแจ้งควรปลูกในสภาพที่มีความชื้นสูงแสงรำไรและมีลมพัดผ่านไม่แรงนัก ถ้าปลูกภายในบ้านหรือาคารสำนักงานควรวางในที่ที่สามารถรับแดดได้บ้างพอสมควร รดน้ำวันละ 2 ครั้งในตอนเช้าและตอนเย็น ในฤดูร้อนและฤดูหนาวความชื้นในอากาศมีน้อย ควรรดน้ำเพิ่มในช่วงบ่าย การให้ปุ๋ยนิยมให้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีละลายน้ำ

หน้าวัวเปลวเทียนมีประสิทธิภาพในการคายความชื้นปานกลางและมีประสิทธิภาพในการดูดสารพิษไม่มากนัก เป็นพืชที่ต้องการแสง แสงรำไร เติบโตได้ดีในอุณหภูมิ 18-24 องศาเซลเซียส เป็นต้นไม้ที่ ต้องการความชื้นสูง และ ต้องการน้ำมาก
การดูแลต้นหน้าวัวเปลวเทียน ถ้าปลูกกลางแจ้งควรปลูกในที่มีความชื้นสูง แสงรำไร มีลมพัดผ่านไม่แรงนัก ถ้าปลูกภายอาคารควรวางในที่สามารถรับแดดได้บ้างพอสมควร รดน้ำวันละ 2 ครั้งในเช้าและเย็น ในฤดูร้อนและหนาวควรรดน้ำเพิ่มในช่วงบ่าย การให้ปุ๋ยนิยมให้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีละลายน้ำ
การปลูกต้นหน้าวัวเปลวเทียน การปลูกในกระถางส่วนผสมของดินใช้ดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน
การขยายพันธุ์ต้นหน้าวัวเปลวเทียน การแยกกอ
โรคและแมลง เป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่ค่อยมีโรคและแมลงมารบกวน

ลองทรงผมผู้ชาย

ลองทรงผมผู้หญิง

ลองทรงผม ใช้มือถือหน้าจอเล็ก