คำถามเกี่ยวกับเส้นผม
ทำอย่างไรให้สีผมสวยติดทนนานเหมือนกับการทำที่ร้าน ?
สีย้อมผมที่ซื้อตามห้างร้านหรือซูเปอร์มาเก็ตนั้นมีหลากหลายประเภทบางชนิดก็เป็นสีกึ่งถวารไฮโดรเจนต่ำกว่าปกติ เช่น 3% หรือ 4% และบางชนิดก็ไม่มีส่วนผสมของ Ammonia สีประเภทนี้จะไม่ทน เมื่อสระหลาย ๆ ครั้ง ก็จะค่อย ๆ จางออก ส่วนสีย้อมถาวร Permanent Hair Color ก็มีขายในตลาดทั่วไป เช่นเดียวกัน กับสีที่ใช้ในร้านเสริมสวย แต่การทำเองแล้ว ไม่ทนเท่ากับช่างที่ร้านทำ อาจจะเป็นเพราะการป้ายสีไม่สม่ำเสมอ หรือหวีสีถึงปลายผมไม่ทั่วทุกเส้นสำหรับผมยาว

วิธีเป่าผมให้แห้งเร็ว ทำอย่างไร
เคล็ดลับง่ายๆ ก็คือ การเป่าไดร์ผมจากชั้นผมด้านใต้ขึ้นมาโดยซับผมให้แห้งหมาดที่สุดก่อนเป่า ทามูสลงบนเส้นผม เล็กน้อย มันจะป้องกันเส้นผม จากความร้อนและเคลือบแกนผมไม่ให้ดูดซับน้ำมากขึ้นไปอีก จากนั้นก้มศีรษะลงหรือหนีบเส้นผมส่วนบนขึ้นไปและเป่าชั้นผมที่อยู่ด้านใต้ก่อน เมื่อมันเริ่มแห้ง จึงใช้แปรงไดร์ผมที่อยู่ด้านบน เทคนิคนี้จะช่วยลดเวลาในการเป่าผมให้แห้งลงได้ราวหนึ่งในสาม และเพื่อให้การเป่าไดร์ผมเร็ว ขึ้นเลือกไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟอย่างน้อย 1,800 วัตต์ ไดร์ที่มีกำลังไฟสูงจะทำให้ผมแห้งได้ในเวลาที่น้อยกว่าเครื่องที่มีกำลังไฟต่ำกว่า
การอบไอน้ำระหว่างการ ยืด ทำสี ดัดผม ได้หรือเปล่า แล้วจะมีผลอย่างไร ?
หลังทำสีควรทำทรีตเม้นต์อบไอน้ำเพื่อบำรุง ให้ผมแข็งแรงมีประกาย แต่หลังดัดและยึด ควรทำทรีตเม้นต์ประเภท ไม่ต้องอบร้อน หรืออบไอน้ำ เพราะจะทำให้ลอนที่ดัด คลายออกบ้าง เช่นเดียวกันกับการยึดผมไม่ควรใช้ความร้อนหลังจากยึดเสร็จแล้ว
ผมมีสุขภาพดี ไม่แห้ง ไม่แตกปลาย แต่ฟู ควรทำยังไงให้ผมมีน้ำหนัก
ผมฟูไม่มีน้ำหนักควรทำ Treatment บำรุงด้วยการเคลือบ Glossing หรือ Color Shine ของ Sebastian เป็นการเคลือบเงาให้ผมที่เส้นเล็กบาง ไม่มีน้ำหนัก ดูสวยมีประกาย มากขึ้น ผลิตภัณฑ์นี้ ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีแต่จะสกัดมาจากธรรมชาติเป็นการบำรุงเส้นผมและเคลือบเงาในเวลาเดียวกัน อีกวิธีหนึ่งที่ให้ผมมีน้ำหนัก คือการใช้ ผลิตภัณฑ์ที่เน้น Volumizing เช่น Mousse Gel หรือ Root Lifter Spray ใช้ก่อนโบลไดร์ผม
มีปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะเวลาที่สระผมหนังศีรษะจะเกิดแผล เปลี่ยนยาสระผมแล้วก็เป็นเหมือนเดิม มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?
หนังศีรษะที่ระคายเคืองหรือผิวหนังที่บอบบาง (Sensitive Skin) ควรใช้แชมพูสำหรับผิวหนังประเภทนี้โดยเฉพาะ การสระผมต้องหลีกเลี่ยงการเกาผมหรือใช้เล็บสระแรง ๆ หลังสระผมทุกครั้งจะแสบและเป็นแผล อาจจะเป็นเพราะรังแคหรือโรคผิวหนังบางาชนิด ขอแนะนำให้พบหมอทางโรคผิวหนังตรวจดูดีกว่า
เป็นคนที่มีผมบางมากตัดสินใจไปดัด ผมดูบางกว่าเดิมมีวิธีแก้ไขหรือไม่ ?
การดัดผมให้ดูหนาและพองขึ้น ทั้งศีรษะหรือเฉพาะช่วงบนของทรงผมจะทำกันเยอะและได้ผลมาก แต่เมื่อดัดแล้ว ผมดูบางลง อาจจะเป็นเพราะ ใช้แกนใหญ่ไปเลย ไม่มีลอน หรืออาจจะเป็นการม้วนแกนที่ไม่ถูกนักแทนที่จะยกโคนขึ้นแล้วม้วนแต่ลากผมลงแล้วใช้ยางรัดที่โคน ถ้าทำดังนั้นจะทำให้โคนผมหัก และผมจะดูแบนติดหนังศีรษะ อีกเหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทิ้งน้ำยาไว้นานไม่พอให้หยิกก็ได้ ต้องปล่อยไว้ระยะหนึ่งไม่ต้องตัดออกให้ผมกลับเป็นสภาพเดิมก่อน แต่แนะนำให้ใช้ Mousse หรือ Gel สำหรับ Volumizing ก่อนโบลไดร์ เพื่อช่วยให้ผมดูหนาขึ้น
ครีมบำรุงเส้นผมแบบไม่ต้องล้างออกกับครีมบำรุงแบบมีประสิทธิภาพ อย่างไหนดีกว่ากัน ?
การดูแลเส้นผมให้ดูดีตลอดเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพื่อให้เส้นผมแข็งแรงและมีประกายหลังสระผมควรบำรุงด้วย Conditioner หรือครีมบำรุงทุกครั้ง เพราะเราอยู่ใน ประเทศที่ร้อนโดนแสงแดดทุกวันบวกด้วยความร้อนจากเครื่องเป่าผมหรืออุปกรณ์เหล็กร้อนต่าง ๆ ที่อาจจะใช้ในการแต่งทรง ส่วนครีมบำรุง ที่ไม่ต้องล้างออก (Leave in Conditioner) นั้น จะทำหน้าที่ต่างกันไป เช่น Leave in บางอย่างจะช่วยให้ผมเรียบตรง และบำรุง ในเวลาเดียวกัน หรือ Leave in ที่ช่วยให้ลอนผมสวยหลังดัด บางชนิดช่วยให้ผมดูหนาพองมากขึ้นและ Leave in บางชนิดจะปกป้องผมจากร้อน จากอุปกรณ์ต่าง ๆ และบำรุงในเวลาเดียวกัน ผมที่แห้งหรือผมยาวควรใช้ทั้งสองอย่าง เช่น หลังสระผมใส่ครีมบำรุง และล้างออกเช็ดให้หมาด ตามด้วยครีมบำรุง Leave in จะทำให้หวีและแต่งทรงง่าย
การเพิ่มวอลลุ่มผม ทำอย่างไร ?
ใส่ Volumizer ฉีดบางๆ ลงบนเส้นผม ช่วยเพิ่มความหนาให้กับเส้นผม จากนั้นไดร์เน้นบริเวณโคนผมให้ฟองตัว ปรับไดร์เป่าผม ให้ความร้อนเป็นระดับปานกลาง แล้วเริ่มทำให้เส้นผมดูมีน้ำหนักด้วยการแบ่งเป็นช่อๆ ม้วนทิ้งไว้ จากนั้นเป่าผมด้วยลมร้อนประมาณ 10 นาที เสร็จแล้วทิ้งไว้สักพัก จนผมเริ่มเย็นตัวลง เพื่อเซ็ตให้ผมอยู่ทรง
ขั้นตอนสุดท้าย ให้แกะโรลม้วนผมออกทีละช่อ แล้วใช้มือหรือหวีซี่ห่างสางผมให้ดูพลิ้วสลวยเป็นธรรมชาติ เท่านี้ผมของคุณ ก็จะดูหนาและน่าหลงใหลขึ้นมาทันตาแล้ว
ผมเสีย แต่อยากทำสี
- เริ่มที่การเตรียมบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงด้วยการหมักทรีตเม้นต์ที่เหมาะกับสภาพผมประมาณ 2-3 ครั้ง จากนั้นค่อยทำสีผม
- ควรให้ตัวยาเข้าไปสร้างความแข็งแรงก่อนทำสี เพื่อให้ผมได้ฟื้นฟูและไม่แห้งกรอบจนกลายเป็นผมเสียภายหลัง และหลังจากทำสีก็ไม่ควรละเลยเช่นกัน หมั่นบำรุงผมให้เงางามอยู่เสมอด้วยเซรั่ม
|