โรคเบาหวาน พบได้ในคนทุกเพศ ทุกวัย แต่จะพบมากในคนที่มี อายุ มากกว่า 40 ปีขึ้นไป และคนที่อยู่ ในเมือง จะมีโอกาสเป็น โรคนี้มากกว่าชาวนาชนนบท คนอ้วนและสตรี ที่มีลูกมาก ก็จะมีโอกาส เป็นโรคนี้ ได้มากขึ้น โรคนี้มักเกี่ยวกับ กรรมพันธุ์ กล่าวคือ มักมีพ่อ แม่ หรือ ญาติพี่น้อง ที่เป็นโรคนี้ด้วย |
 |
สาเหตุ ของโรคเบาหวาน |
โรคนี้เกิดจากตับอ่อนสร้างฮอร์โมนชนิดนี้ มีหน้าที่ คอยช่วย เผาผลาญน้ำตาลมาใช้เป็นพลังงาน เมื่อ อินซูลินในร่างกาย ไม่เพียงพอ น้ำตาลก็จะไม่ถูกนำมาใช้ จึงเกิดการคั่ง ของน้ำตาลในเลือด และอวัยวะต่างๆ เมื่อน้ำตาลคั่ง ในเลือดมากๆ จะถูกไตกรองออกมาทำให้ ปัสสาวะหวาน หรือมีมดขึ้นจึงเรียกว่า เบาหวาน |
|
Sponsored Links
|
|
อาการของโรคเบาหวาน |
ผู้ป่วยจะมีอาการปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ และดื่มน้ำบ่อย ทานข้าวจุ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง บางคนอาจสังเกตว่าปัสสวะมีมดขึ้น บางคนมีรูปร่างอ้วน มีอาการคันตามตัว เป็นแผลบ่อยหรือป็นแผลเรื้อรัง หายยาก |
การปฏิบัติตัว ของคนเป็นโรคเบาหวาน |
เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องรักษากันติดต่อเป็นเวลานาน หรือ ตลอดชีวิต ซึ่งหากได้รับการรักษาอย่างจริงจัง อาจมีชีวิต เหมือนคนปกติ ได้ แต่ถ้ารักษาไม่จริงจังก็อาจมีอันตรายจากโรคแทรกซ้อนได้มาก มีข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวดังนี้
1. การควบคุมอาหาร การลอดน้ำหนัก และการออกกำลังกาย มีความสำคัญต่อการรักษา เบาหวานเป็นอย่างมาก ในรายที่เป็น ไม่มากถ้าปฏิบัติตามในเรื่องเหล่านี้ อาจหายจากโรคเบาหวาน ได้โดยไม่ต้องพึ่งยา
2. ผู้ป่วยควรเลิกสูบบุหรี่ โดยเด็ดขาด มิฉะนั้นอาจทำให้ผนังหลอดเลือดแดงแข็งตัวเร็วขึ้น ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคแทรกซ้อน
3. ผู้ป่วยควรหมั่นดูแลเท้าเป็นพิเศษ ระวังอย่าให้เกิดบาดแผล หรือการอักเสบ ซึ่งอาจจะลุกลาม จนกลายเป็นแผลเน่า จนต้อง ตัดเ้ท้าหรือขาทิ้ง
4. ถ้าเริ่มรู้สึกว่ามีอาการใจหวิว ใจสั่น หน้ามืด ตาลาย เหงื่อออก ตัวเย็น เหมือนเวลาหิวข้าว ซึ่งเป็นภาวะของน้ำตาบในเลือดต่ำ ให้รีบกินน้ำตาบหรือของหวาน จะช่วยให้อาการให้ปลิดทิ้ง และควรทบทวนว่าทานอาหารน้อยไป หรือ ออกกำลังกายมากไป กว่าที่เคยทำอยู่หรือไม่ ควรปรับทั้งสองอย่างให้พอดีกัน จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดน้ำตาลในเลือดต่ำ ถ้ายังเป็นอยู่บ่อยๆ ควร ปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษา ซึ่งอาจจะต้องลดยาเบาหวาดลง
5. ผู้ป่วยควรมีบัตรประจำตัว หรือกระดาษแข็งแผ่นเล็กๆ ที่เขียนข้อความว่า ข้าพเจ้าเป็นโรคเบาหวาน พร้อมบอกชื่อยาที่ใช้ รักษาติดกระเป๋าไว้ หากเป็นลมหมดสติขึ้นมา ทางโรงพยาบาลจะได้ทราบประวัติของผู้ป่วย ว่าผู้ป่วย ป่วยเป็นโรคเบาหวานอยู่ |
|
เราอาจป้องกันโรคนี้ได้โดยการรู้จักทานอาหาร โดยการลดของหวานฯ อาหารพวกแป้งและไขมัน กินอาหารพวกโปรตีน ผักและผลไม้ให้มากๆ อย่าปล่อยตัวให้อ้วน หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ แล้วทำจิตใจให้ร่าเริงเบิกบาน อย่าเครียด หรือวิตกกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีญาติพี่น้องเป็นโรคเบาหวาน ควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และควรตรวจเช็คปัสสาวะ หรือ เลือดเป็นครั้งคราว หากพบว่าเป็นโรคเบาหวานในระยะเริ่มแรก จะได้ทำการรักษาแต่เนิ่นๆ |
สารให้ความหวานแทนน้ำตาลสำหรับผู้ป่วย
สารให้ความหวานหรือน้ำตาลเทียมที่ใช้กันมาก ได้แก่แซคคาริน (Saccharin), แอสปาเทม (Aspartame, Nutra-sweet) , และ เอชซัลเฟม (Acesufame, Sweet one) ส่วนสารให้ความหวาน ชนิดใหม่ คือ ซูคราโลส (Sucralose, Splenda) เป็นทางเลือกที่ดี ในการใช้แทนน้ำตาล เนื่องจากไม่ทิ้งรสขมในปาก เหมือนน้ำตาลเทียม ชนิดอื่น ๆ สามารถใช้ได้ดีในการทำขนมอบ การบริโภค แซคคาริน ในปริมาณมากเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งในหนูทดลอง แต่ไม่พบ ลักษณะเช่นนี้ ในมนุษย์ สำหรับแอสปาเทม จะมีผลต่อ ระบบประสาท รวมถึงอาการปวดหัว และมึนงง ซึ่งพบได้ ไม่บ่อยนัก สารต้านออกซิเดชัน กับโรคเบาหวาน อนุมูลอิสระสร้าง ความเสียหาย ให้เกิดขึ้นกับเนื้อของเซลล์ และ ยังมีการ รบกวนต่อ สารพันธุกรรมด้วย ซึ่งจากเหตุผลนี้จะนำไปสู่ความผิดปกติต่าง ๆ รวมทั้งโรคมะเร็ง หัวใจ และ โรคแทรกซ้อน ของโรคเบาหวาน ซึ่งหมายถึงอาการทางตา ไตวาย เป็นต้น วิตามินซี ดี และเอ เป็นสารต้านออกซิเดชัน ที่มีประสิทธิภาพสูง
|
สมุนไพรกลุ่ม รักษาโรคเบาหวาน |
ชะพลู วิธีและปริมาณที่ใช้ รักษาโรคเบาหวาน ใช้ชะพลูสดทั้ง 5 จำนวน 7 ต้น ล้างน้ำให้สะอาด ใส่น้พอท่วม ต้มให้เดือดสักพัก นำมาดื่ม เหมือนดื่มน้ำชา ข้อควรระวัง - จะต้องตรวจน้ำตาลในปัสสาวะก่อนดื่มและหลังดื่มทุกครั้ง เพราะว่าน้ำยานี้ทำให้น้ำตาลลดลงเร็วมาก ต้องเปลี่ยนต้นชะพลูใหม่ทุกวันที่ต้ม ต้มดื่มต่อไปทุกๆ วัน จนกว่าจะหาย |
สุขภาพจิต |
เลือดออกในสมอง |
โรคเวียนศีรษะ |
โรคอัลไซเมอร์ |
โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ |
โรคสมองอักเสบ |
อาการปวดปวดประสาท |
โรคสมาธิสั้น |
เด็กออทิสติก |
โรคเครียด |
โรคกระดูกพรุน |
โรคข้อเสื่อม |
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ |
โรคปีกมดลูกอักเสบ |
หนองในเทียม |
การติดเชื้อหูด |
โรคเริม |
แผลริมอ่อน |
ฝีมะม่วง |
ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา |
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ |
ไวรัสตับอักเสบบี |
ไวรัสตับอักเสบซี |
เซลลูไลท์ |
ผื่นแพ้ยา |
มะเร็งผิวหนัง |
โรคลมชัก |
ข้อมูลเกี่ยวกับโรคต่างๆ รวบรวมมาจากเอกสารแผ่นพับจากโรงพยาบาลและศูนย์สุขภาพทั่วไป เพื่อให้รู้ลักษณะของโรคและสาเหตุ และการรักษาเบี้องต้นในการดูแลสุขภาพ เมื่อทราบสาเหตุและอาการป๋วย ว่าเป็นโรคอะไร ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชื่ยวชาญตามสถานพยาบาลต่างๆ อย่าปล่อยไว้ให้เนิ่นนาน อาจจะทำการรักษายากขึ้นและใช้เวลานานในการรักษา |
|